Archive for the ‘ ความรู้เผยแพร่ ’ Category

Excel – เมื่อ sheet tab หาย

มีอยู่วันนึง Copy Excel จากเครื่องที่ทำงานใส่ลง Dropbox แล้วมาเปิดทำที่บ้าน พอเสร็จก็ใส่ Dropbox กลับ แต่พอไปเปิดที่ทำงาน Sheet tab หายไป ตกใจสิคะ

sheet_tab

ลองหาวิธีดูพบว่าง่ายมาก เพื่อให้เจอปัญหาแบบเดียวกัน ทำตามนี้เลย

sheet_tab

จบแล้วง่ายจริงๆเลย

 

Excel – ใช้สูตรแล้วได้ค่าเป็น #N/A อยากให้เป็นค่าว่างๆ หรือ blank

วันนี้ก็นั่งเขียนสูตร excel แล้วผลลัพธ์ออกมาเป็นค่า #N/A แต่เราไม่อยากให้โชว์เป็นคำนี้ อยากให้โชว์ค่าเป็น blank หรือ ว่างๆ

เลยลองหาวิธีไม่ยากเลย คือ ใช้คำสั่ง isna() ร่วมกับ If()

คำสั่ง =isna()

คำสั่งนี้จะเช็คค่าที่อยู่ในวงเล็บว่าเป็น #N/A หรือไม่แล้วได้ผลลัพธ์มาเป็น TRUE กับ FALSE

เช่น

=ISNA(#N/A) จะได้ค่าเป็น TRUE (ประโยคนี้หมายถึงค่าในวงเล็บเป็น #N/A ใช่ไหม มันเช็คว่าใช่ เลยได้ค่าเป็น TRUE)

=ISNA(1) จะได้ค่าเป็น FALSE (ประโยคนี้หมายถึงค่าในวงเล็บเป็น #N/A ใช่ไหม มันเช็คว่าไม่ใช่เป็น 1 เลยได้ค่าเป็น FALSE)

คำสั่ง =if()

คำสั่งนี้จะแบ่งได้เป็น 3 ช่วงในวงเล็บ =IF(condition ตัวเช็ค,ถ้าเป็นจริงให้ทำตามนี้,ถ้าไม่เป็นจริงให้ทำตามนี้)

เช่น

=IF(1=1,”ถูกต้อง”,”ผิด”) >>> (ถ้า 1 เท่ากับ 1 เป็นจริงให้แสดงคำว่า ถูกต้อง ถ้าไม่จริงให้แสดงคำว่า ผิด) ผลลัพธ์ จะแสดงค่าว่า ถูกต้อง เพราะ 1 เท่ากับ 1 เป็นจริง 

=IF(1=2,”ถูกต้อง”,”ผิด”) >>> (ถ้า 1 เท่ากับ 2 เป็นจริงให้แสดงคำว่า ถูกต้อง ถ้าไม่จริงให้แสดงคำว่า ผิด) ผลลัพธ์ จะแสดงค่าว่า ผิด เพราะ 1 เท่ากับ 2 ไม่เป็นจริง

รวม 2 คำสั่งเอาไว้ด้วยกันตามนี้คือ

=IF(isna(999),””,999) >>> (999 เป็น #N/A ใช่หรือไม่ ถ้าใช่ ให้แสดงค่าว่าง (ใสเครื่องหมาย ”  2ครั้ง) ถ้าไม่ใช่ให้แสดง 999) ผลลัพธ์ จะแสดงค่าว่า 999

=IF(isna(#N/A),””,999) >>> (#N/A เป็น #N/A ใช่หรือไม่ ถ้าใช่ ให้แสดงค่าว่าง (ใสเครื่องหมาย ”  2ครั้ง) ถ้าไม่ใช่ให้แสดง 999) ผลลัพธ์ จะแสดงค่าว่าง

วิธีประยุกต์ใช้ ก็อาจจะเขียน vlookup ข้อมูลมา ถ้าข้อมูลหาไม่ได้ก็ให้แสดงเป็น blank ถ้าหาได้ก็แสดงค่าตามที่ lookup มาได้ โดยแทนลงไปที่ 999 ของคำสั่งนี้ =IF(isna(999),””,999) ก็เรียบร้อย 

ณัฐชา มีทอง >>> ^___^

ราคามาตราฐานสำหรับ การรักษาฟัน

เนื่องจากช่วงนี้ไปหาหมอฟันบ่อย จนจะซี้กันแล้ว แหะๆ เราเลยคิดอยากรู้ว่า ที่เราไปหาหมอในทุกวันนี้ เราจ่ายแพงไปไหม ราคาปกติทั่วไป หรือมาตราฐานควรเป็นเท่าไร ได้ไม่ถูกเอาเปรียบ

====================================================

ข้าพเจ้าจึงได้ไปเจอเว็บนึง เป็นเว็บของทันตแพทย์สภา ซึ่งบอกราคาการรักษาฟัน หลายๆแบบไว้

ก็เข้าไปดูกันได้ที่

http://www.dentalcouncil.or.th/member/compare_price.php

ก็เอาไว้เป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจได้ในระดับนึง

====================================================

ส่วนใครที่หาร้านทันตกรรมแถวบ้านแต่ไปรู้จะทำที่ไหนก็ลองดู ข้อมูลคลีนิคได้ แต่บางที่ก็ไม่ทำฟันนะ ต้องโทรไปสอบถามดูเอาด้วย

http://www.dentalcouncil.or.th/member/clinic_search.php

====================================================

ส่วนใครมีประกันสังคมก็จะมีสิทธิ์เบิกได้ตามรายละเอียดในนี้ ซึ่งก็อาจสอบถามทางคลีนิคเพิ่มเติมได้เช่นกัน

http://www.sso.go.th/wprp/ayutthaya/content.jsp?id=4139&cat=676&lang=th

====================================================

หวังว่าคงเป็นประโยชน์นะคะ

เมื่อข้าพเจ้า ท้องเสีย

ท้องเสียก็คือ การที่เราถ่ายบ่อยมากใน 1 วัน เช่นมากกว่า 3 ครั้ง ซึ่งจากการหาข้อมูลมา อาจแบ่งได้เป็น 2 แบบ คือ แบบเฉียบพลัน และแบบเรื้อรัง

====================================================

ที่เราเป็นอาจเป็นแบบเฉียบพลัน เพราะเป็นวันเดียวหนักๆ ถ้าเป็นบ่อยๆ ต่อเนื่องๆ น่าจะเรื้อรัง

====================================================

เนื่องจากวันนั้นถ่ายไปมากกว่า 6 ครั้งแล้ว เป็นน้ำๆ สีเหลืองๆ ด้วย ตอนนั้นกินน้ำเกลือไปก็ยังไม่หาย พี่ที่ทำงานบอกไปหาหมอซะ เราก็เลยตัดสินใจไปหาหมอ ไปแบบโทรมๆ แต่พอไปหาหมอกลับไม่มีอาการแล้วแหะ คงใกล้จะหาย

====================================================

พอถึงคิว หมอก็ถามอาการ และก็บอกมาว่าน่าจะได้รับเชื้ออะไรเข้าไปสักอย่าง ทำให้เป็นขึ้นมา ส่วนมากถ้าได้รับเชื้อ ต้องแสดงอาการภายใน 12 ชั่วโมง (ตอนแรกนึกว่าเป็นเพราะไปกิน บุพเฟ่ มา พี่อีกคนนึงเข้าโรงบาลเลย เราเล่าให้หมอฟัง หมอบอกไม่ใช่หรอกเพราะผ่านมานานแล้ว ตอนนั้นไปกินวันพฤหัส ตอนที่เราท้องเสียคือวันเสาร์ และก็อีกทีวันพุธแบบหนักๆ)

====================================================

อาหารที่กินได้ช่วงท้องเสีย ที่หมอบอกมาคือ อาหารอ่อนๆ พวกแป้ง คาร์โบไฮเดรต อาหารรสไม่จัด และควรเคี้ยวให้ละเอียดๆด้วย

อาหารที่ไม่ควรกินคือ พวกนมทั้งหลาย

====================================================

เราก็เลยถามหมอไปว่าแล้วพวก Yogurt ทานได้ไหม เพราะเห็นอ่านๆเจอว่ามันมีพวก จุลินซีย์ที่มีชีวิต อาจช่วยในระบบขับถ่าย หมอก็บอกว่าได้ แต่ก็ไม่ควรเยอะเพราะร่างกายย่อยยังไม่ค่อยดี

====================================================

หลังจากนั้นก็รอรับยา สิ่งที่ได้มามี

1. น้ำเกลือหลายซองเลยรส สัปปะรดด้วย แปลกดี ปกติได้แต่รสส้ม (วันนั้นหมอบอกให้กินไปก่อน 2 ซอง ทานเรื่อยๆ)

2. ยาฆ่าเชื้อ Cifloxin 500 mg 6 เม็ด หมอบอกให้ทานให้ครบ (แต่เราเกิดเหตุให้ทานไม่ครบแหะ และทานยาเม็ดได้ยากมากด้วย เลยทานไปได้แค่สองเม็ด กลัวเชื้อดื้อยาเหมือนกัน แต่ไหนๆก็หยุดไปแล้วเลยไม่ได้ทานต่อ)

3. เป็นยาเม็ดดำๆ Ultracarbon น่าจะเอาไว้ดูดสารพิษ เนื่องจากเม็ดใหญ่ แล้วเริ่มรู้สึกว่าหายดีแล้วก็เลยไม่ทาน เพราะหมอบอกว่า อันนี้เอาไว้ทำให้ถ่ายเป็นก้อนขึ้น

4. ยาแก้ปวดท้อง Buscopan หมอให้มาเพื่อมีอาการปวดท้อง แบบ บิดๆลำไส้ ได้ทานแก้ ซึ่งเราก็ไม่ปวดท้องเลยไม่ได้ทาน

====================================================

ถ้าเป็นไม่มาก คือ มีอาการแค่ท้องเสีย เฉยๆไม่มีอาการอื่น ก็อาจไปหาร้านยาแถวบ้านได้ให้เภสัชกรช่วยแนะนำ คงช่วยได้ระดับนึง

แต่ถ้าเป็นมาก เช่นท้องเสีย อาเจียน ปวดท้อง มีไข้ สีอุจาระแปลกๆ เช่นมีมูก สีแดงๆ ด้วย ควรหาหมอเลย อาจเสียชีวิตได้เนื่องจากการขาดน้ำ ช็อก

====================================================

ตอนหลังๆมานี่ก็เริ่มทำอะไรให้สะอาดๆขึ้น เช่นล้างมือบ่อยๆ งดนม (ที่ชอบดื่ม) ชั่วคราวไปก่อน อาจแพ้แหะ

ยังไงก็อยากเห็นทุกคนสุขภาพดี ทั้งกายและใจนะคะ ^^ โชคดี

ผ่าฟันคุด

ที่ข้าพเจ้าหายไปนานเพราะช่วงนี้ป่วยๆ ทั้งมีฟันคุดและท้องเสียอีกตั้งหาก

====================================================

มาพูดถึง ฟันคุด กันก่อน

====================================================

ฟันคุด ตามที่ข้าพเจ้าเข้าใจ ก็คือ ฟันที่ขึ้นมาในปากอย่างผิดปกติ หรือ ขึ้นมาไม่ได้ (อยู่ในเหงือก) ส่วนมากมักจะอยู่ริมๆ

====================================================

ที่จริงข้าพเจ้าเริ่มรู้สึกถึงมันเป็นเวลานานพอควรและ แต่ตอนแรกนึกว่าเป็นฟันอีกซี่ เพราะอีกซี่นึงเป็นฟันบนขวา มันไม่มีคู่ (เหมือนเจ้าของ TT) มันก็เลยยื่นออกมาแล้วทำให้รู้สึกรำคาญๆ แต่ก็ไม่ได้เป็นฟันเก แต่ก็เห็นว่ามันแค่ยื่นเฉยๆ ก็ไม่ได้สนใจอะไร จนเมื่อไม่นานมานี่ ลองถูเหงือกข้างๆ ฟัน นิ้วของข้าพเจ้าก็สัมผัสได้ถึง อะไรแข็งๆอยู่ในเหงือก นั่นหละฟันคุด

====================================================

พอรู้ว่าเป็นฟันคุด ข้าพเจ้าก็เริ่มกังวลเพราะหมอเคยบอกมาว่า ถ้าไม่เอาออกจะ

– ชนฟันอื่นทำให้ฟันอื่นผุ แล้วถ้าผุก็ปวด และอาจส่งผลถึงเส้นประสาท จี๊ดๆ

– อาจทำให้ เหงือก เป็นหนอง ปวด บวม บ่อยๆ ปากเน่าเหม็น

และมันก็มักจะไม่มีความจำเป็นในการใช้งาน ซึ่งก็ควรถอนออกไปซะ

ข้าพเจ้าเลยคิดว่ายอมเจ็บแวบเดียวดีกว่าเจ็บยาว

====================================================

สักพักข้าพเจ้าก็ตัดสินใจได้ว่าต้องรีบเอาออกให้เร็วที่สุด ก็ดูๆวันหยุดไว้ และก็หาร้านแถวๆบ้าน ดูตามเว็บ และโทรไปสอบถามเอาและก็จองได้ ศึกษาเรื่องราคาไปด้วยบ้างนิดหน่อย เพราะกลัวเอาตังค์ไปไม่พอจ่าย เอาไปสัก 4000 เผื่อเอาไว้ เพราะดันเป็นฟันที่น่าจะเป็นเคสยากซะด้วย

====================================================

พอถึงวันนัดก็ไปคนเดียวเลย ใจกล้าพอตัวนะเรา อิอิ คนส่วนมากไปกันเป็นครอบครัว นั่งรอสักพัก ผู้ช่วยหมอก็มาเรียกตัวไป เราก็เลยเดินไป สักพักขึ้นบันได เค้าก็ให้เราอยู่หน้า แต่เนื่องจากเราไม่รู้ทางเราเลยจะให้เค้าขึ้นมาก่อน หัวของเราเลยไปชนกับกำแพงเลย เจ็บมาก บวมขึ้นมาเลย กระแทกแรง เจ็บตัวก่อนทำฟันเสียอีก พอถึงหมอก็มึนๆ

====================================================

พอพบหมอก็ถามอะไรนิดหน่อยว่าทำไมมาผ่า ปวดหรือ (ที่จริงยังไม่ปวดแต่กลัวปวดนั่นหละ) และหมอก็ดูฟันอีกซี่ที่ยื่นๆออกมา แล้วเค้าก็ถามเราว่าจะเอาออกด้วยไหม ฟันนี้ไม่จำเป็น คือมันอยู่ติดกัน เราก็คิดไว้อยู่แล้วว่าจะเอาออกด้วย เลยบอกหมอ ถอนไปเลย สรุปที่จะทำคือมีถอน 1 ผ่า 1 ซี่

พอถึงเวลาหมอก็ทำการ X-ray ตรงฟันที่เราคุด พอได้ภาพปุป หมอก็ให้เราบ้วนปากก่อน แล้วก็เริ่มดำเนินการ

====================================================

หมอก็เอาผ้ามาปิดหน้า ปิดตาเราให้เหลือแต่ปาก หลังจากนั้นก็เริ่มฉีดยาชา (โชคดีหมอมือเบามากเลยไม่รู้สึกเจ็บ) หมอก็รอสักพัก แล้วก็ทำการทดสอบแล้วถามเราว่าเจ็บอยู่ไหม เราก็ว่าไม่ หมอก็เริ่มทำการถอนฟันก่อนเลย ความรู้สึกตอนนั้นคือ หมอทำอะไรสักอย่างกับเหงือก แล้วก็มีการดึง กับ ดัน ฟัน ถ้าจะใช้แรงเยอะอยู่นะ คือเนื่องจากชา เลยไม่รู้สึกไรมาก แต่รู้สึกได้ว่าดึงฟันออกไป 2 ซี่แล้วก็เย็บแผลเลย พอเสร็จก็มีเช็ดปากเรานิดหน่อยรอบเลย เราเลยรู้สึกได้ว่าเลือดน่าจะกระเด็นเต็มปากอยู่ แต่ที่สำคัญคือไม่เจ็บ พอเสร็จ หมอก็ให้กัดผ้าก็อตไว้ ใช้เวลาทั้งหมดแค่ประมาณครึ่งชั่วโมงเอง เร็วมาก

เสร็จก็ลุกขึ้นมาเห็นฟันตัวเองอยู่ข้างๆเลยขอหมอเอากลับมาดูเป็นที่ระลึกด้วย ตอนแรกนึกว่าฟันคุดที่อยู่ในเหงือกจะเล็กๆที่ไหนได้ใหญ่มาก

====================================================

รูปฟันหลังจากถอน และ ผ่า ข้างเดียวกัน คือ บนขวา

 

สภาพฟันตอนแรกที่หมอคืนมาคือ เลือดอาบและมีเนื้อเหงือกติดอยู่ อันนี้ล้างออกไปบ้างแล้ว

====================================================

หลังจากนั้นก็รอเรียก พนักงานก็เอาน้ำแข็งมาให้ประคบไปเรื่อยๆรอคิดเงิน

พอเรียกไปคิดเงิน ตกใจ ประมาณ 1500 บาท คือถูกกว่าที่คิดเยอะเลยนึกว่าจะเกิน 3000 ซะอีก แถมเบิกประกันสังคมได้ตั้ง 600

====================================================

ข้อควรปฏิบัติหลังผ่าฟันมา ตามที่เอกสารบอกมา

กัดผ้าก็อตที่หมอให้กัดไว้สัก  2 ชั่วโมง และก็พยายามอย่าพูดถ้าไม่จำเป็น (เรื่องนี้ข้าพเจ้าพยายามมาก อิอิ)

วันแรก ประคบนอกปากด้วยน้ำแข็ง

วันที่สอง ประคบด้วยน้ำอุ่นๆ

ห้ามบ้วนทุกอย่างในวันที่ถอน เลยได้แต่ให้น้ำผ่านๆปากไป

ที่สำคัญห้ามเล่นแผล ถึงแม้จะยังไม่เจ็บก็ตาม

และอื่นๆ เอาไว้โดนผ่าก็จะรู้เอง

====================================================

วันแรก เรายังไม่กล้ากินอะไรเลยกลัว เลยกินแต่น้ำเปล่ากับ นม แปรงฟันก็ยังไม่กล้าแปรง ซกมกมาก แถมต้องไปนั่งดูคนเค้ากินเลี้ยงกัน ทั้งๆที่ตัวเองกินอะไรไม่ได้นี่น่าช้ำใจจริงๆ

วันต่อๆมาแปลกใจที่ไม่เจ็บ อาจมีปวดๆบ้าง แต่น้อยกว่าที่เคยทำมาครั้งแรก และก็พยายามกินอาหารอ่อนๆ อ้าปากไม่ค่อยได้ รู้สึกจะกรามค้างไปประมาณสองวัน หลังจากนั้นก็แทบกลับมาปกติแล้ว แหอะๆ (เนื่องจากไม่ปวดข้าพเจ้าเลยไม่ได้กินยา หุหุ ที่สำคัญคือถ้าต้องกินก็อาจไม่กิน เพราะ ข้าพเจ้ากินยาเม็ดได้ยากมาก)

วันที่ผ่าตัดคือวันอาทิตย์ตอนบ่ายๆ วันที่กินข้าวสวยๆมือแรกได้นั้นเป็นวันพุธตอนเย็นๆ กินคำแรกหลังจากไม่ได้กินมานานเป็นอะไรที่สุดยอดมาก ประทับใจ การที่คนเราไม่ได้กินข้าวตามปกติได้นั่นช่างทรมานจริงๆ ก่อนหน้านั้นทานแต่โจ๊ก กับ นม

====================================================

ที่จริงช่วงที่กินอาหารไม่ได้ ดันมาท้องเสียอีกตังหาก เพื่อนเลยบอกว่านอกจากเอาเข้าไม่ได้แล้วยังออกอีก เห้อ เวลาจะป่วยก็ดันป่วยพร้อมๆกัน ไว้เล่าต่อว่าท้องเสียแล้วเป็นยังไง (สาเหตุอาจเกิดจากกินนมก็เป็นไปได้ แอบเซง แหอะๆ)

ติดเน็ตบ้าน ค่ายไหนดี TRUE vs 3BB

เนื่องจากจะติดเน็ตที่บ้าน แต่ไม่รู้จะติดอะไรเลยถามไปที่ fb ของ ภาค

====================================================

ก็มีน้องคนนึงได้ให้ความเห็นไว้อย่างน่าสนใจ

นั่นคือ เลือกค่ายที่มีสัญญาณใกล้บ้านเราที่สุด แต่เราจะรู้ได้ยังไงนะหรือ

====================================================

วิธีการคือโทรไปถาม (เสียค่าโทร) ซึ่งค่ายหลักๆที่เราสนใจก็มี True กับ 3BB ส่วน TOT เห็นคนบ่นเยอะเลยไม่เอา

True โทรไปที่เบอร์ 1686 บอกเค้าว่าจะติดแถวไหน แล้วเค้าจะดูพวกคู่สายให้ ว่ามีไหม ห่างแค่ไหน (ซึ่งยิ่งห่างสัญญาณ ก็ยิ่งไม่ดี) พอเราติดต่อไป เค้าก็บอกว่าต้องมีเบอร์บ้านด้วย ซึ่งเราไม่มีเบอร์บ้าน TRUE ก็ต้องเสียเพิ่มอีกเดือนละ 107 บาท ซึ่งเราคิดว่ามันไม่จำเป็นแหะ ก็แล้วแต่คนเพื่อได้เบอร์บ้านไว้ใช้ด้วย

3BB โทรไปที่ 1530 ก่อน เค้าจะบอกว่าเค้าตรวจสอบตำแหน่งให้ไม่ได้ ต้องติดต่อที่Boot ขายแถวบ้าน แล้วเราก็เลยถามสาขาใกล้บ้านเรา เค้าจะตรวจสอบให้ แล้วให้เบอร์มา (อาจหาเบอร์จากเน็ตเอาเองได้) เราโทรไป บอกสถานที่ เค้าบอกว่าติดตั้งได้ เค้าก็บอกให้มาหาเองเลยที่ Boot เพราะเราต้องมาทำเรื่อง และรับตัว Router กลับไปรอช่างมาติดตั้งให้

ก็ลองสอบถามเค้าไปก่อนได้ว่าตู้ Node สัญญาณอยู่ห่างบ้านเราประมาณเท่าไหร แล้วก็ลองเอาเปรียบเทียบกันดู ถ้าอันไหนใกล้กว่าก็ลองพิจารณาองค์ประกอบอื่นร่วมไป

====================================================

โปรโมชั่น ก็จะใกล้เคียงกัน

ของ True

http://www3.truecorp.co.th/trueonline

ของ 3BB

http://www.3bb.co.th/promotion/

====================================================

ที่ต่างก็คือ True ต้องมีเบอร์บ้าน

3BB ไม่ต้อง

แต่ทั้งสองที่ก็ต้องดูเรื่องสัญญาดีๆ อาจมีว่าต้องใช้งาน 1 ปี ถ้าต่ำกว่านั้นต้องเสียค่าโน้นนี่ (แต่ถ้าใครคิดว่าติดถึงก็ไม่มีปัญหา)

====================================================

บางทีเราก็ต้องดูองค์ประกอบหลายๆอย่างที่เหมาะสมกับเราที่สุดเอาเอง

พยายามถามสิ่งที่อยากรู้ทั้งหมดกับคนขาย แล้วนำมาตัดสินใจอย่างใจเย็น อาจหาข้อมูลในเน็ตเพิ่มเติมด้วยก็ได้ว่าการบริการเป็นยังไง ส่วนตัวคิดว่าการบริการสองที่นี่พอๆกัน คือไม่เลวร้าย

====================================================

ขอให้ทุกคนมีเน็ตบ้าน ที่ถูกใจ ^_^ นัท

วิธีเข้าไปดู Doodles ของ Google อันเก่า

ช่วงนี้ก็เป็นช่วงโอลิมปิก Google ก็มีอะไรน่ารักๆมาให้ได้เล่นกัน นั่นก็คือการใส่เกมกีฬาที่เล่นได้จริงๆ เมื่อเข้าสู่หน้า Google โดยใช้ Browser ที่สนับสนุนการทำงานเช่น Google Chrome

เช่น

 การรับลูกจุดโทษ

การ Shoot บาส

การพายเรือ แคนนู

การวิ่งข้ามรั้ว

เป็นอะไรที่เพลินดี แถมมีคะแนนให้ไว้โชว์เพื่อนได้อีกต่างหาก

แต่เนื่องจากทาง Google มีการเปลี่ยนเกมทุกวันเลย อาจมีคนที่พลาดอันเก่าๆไปได้

ดังนั้นใครอยากเล่นของเก่า ก็สามารถเข้าไปย้อนดู ย้อนเล่น Doodles อันเก่าๆ ได้ที่

http://www.google.com/doodles/finder/2012/All%20doodles

รถตู้มาพระรามสอง เคหะธน

เนื่องจากบ้านก็อยู่แถวๆนี้ บางทีการทำงานทำให้เราต้องเดินทางไปหลากหลายที่ เพื่อคนต้องการนั่งรถตู้มาพระรามสอง แถวๆ Big C พระราม 2 ถ้าเลยจากนั้นก็อาจต้องถามเพิ่มเติมเพื่อความแน่ใจว่าถึง เคหะธน ไหมแต่ส่วนมากถึง

====================================================

ตอนนี้ที่เคยนั่งก็จะมีอยู่ประมาณ 3 ที่ ที่จริงมีมากกว่านี้แต่ไม่เคยนั่ง เช่นจากหมอชิต และ สยาม

1. จากอนุสาวรีย์ มา พระรามที่ 2

2. จากสีลม มา พระรามที่ 2

3. จากเซ็นทรัลลาดพร้าว มา พระรามที่ 2

====================================================

จากอนุสาวรีย์ มา พระรามที่ 2

ที่จอดจะอยู่ใต้ทางด่วน ถ้ามองจากอนุสาวรีย์ก็จะอยู่ด้านซ้ายมือ รู้สึกจะอยู่ห่างจาก รถไฟฟ้า BTS อยู่พอควร ถ้าจะสังเกตอีกหน่อยก็ดูสายรถเมล์ 97, 29 วิ่งออกไป หรือก็คือทางไปสนามเป้า สะพานควาย วินจะอยู่กลางๆ ดูป้ายได้

ความหนาแน่นถ้าช่วงเวลาเร่งด่วนก็สูงพอควร แต่ยังไม่เคยรอเกิน 30 นาทีนะ คือคนอาจดูเยอะแต่รถก็มาเยอะเหมือนกัน บางทีก็ต้องพยายามเกาะกับคนข้างหน้าเอาไว้ให้ดี เพราะแถวอาจขาดตอนได้ เน้นการต่อแถว

ราคาก็ 30 บาทตลอดสายเลย ให้เงินในรถ ก็ควรเตรียมตังค์ไว้พอดีๆ ใครนั่งหน้าข้างคนขับก็ต้องช่วยนับตังค์

เรื่องความสบายของรถ แล้วแต่ดวง แต่ส่วนมากจะไม่ค่อบสบายเท่าไหร

ระยะเวลาก็ประมาณ 30-40 นาทีก็ถึง อาจเร็วกว่านั้นก็ได้ตามช่วงเวลาแล้วปริมาณของรถ ขณะนั้น ขึ้นทางด่วนไป ลงฝั่ง Big C พระราม 2

====================================================

จากสีลม มา พระรามที่ 2

ที่จอดจะอยู่ตรงฝั่งตรงข้ามทางขึ้นรถไฟฟ้า หรือรถไฟใต้ดิน สีลม ศาลาแดง คืออยู่คนละฝั่งกับตึก CP Tower หรือ ถ้าเดินมาจากตึกอื้อ จื้อ เหลียง ก็ขึ้นทางขึ้นรถไฟฟ้าไปลงอีกฝั่งถนน พอลงแล้วให้หันหลังไปแล้วเดินเลียบไปทางซ้าย จะมีวินอยู่ตรงนั้น

รถช่วงเวลา 6 โมงเย็นคนจะเยอะมากแต่ถ้ามาประมาณ 5 โมงเย็นก็กำลังดี

ราคาน่าจะ 35 บาท เก็บก่อนขึ้น หรือก่อนออกรถ

รถค่อนข้างแออัด เพราะมีเก้าอี้เสริมพิเศษด้วย

ระยะเวลาก็ 30-40 นาที เช่นกัน แต่ถ้าจะไปถึงไหนก็ควรถามให้ดีๆเพราะรู้สึกว่าบางทีมีไปถึงแค่โลตัส ขึ้นทางด่วน ลงฝั่ง Big C พระราม 2

====================================================

จากเซ็นทรัลลาดพร้าว มา พระรามที่ 2

อันนี้ถ้านั่งรถไฟใต้ดินมาก็มาลงสถานีพหลโยธิน เดินตามทางออกมา เซ็นทรัล พอออกมาก็ข้ามสะพานลอยไปฝั่งตรงข้ามเซ็นทรัล พอลงมาข้างล่าง เดินไปเรื่อยๆ ฝั่งขวา จะเห็น 7-11 สักพักจะเห็นป้ายร้านถ่ายรูปเยอะๆ มีซอยดูน่ากลัวๆหน่อย แต่มีรถตู้อยู่ข้างใน ก็ต้องถามนิดหน่อยว่าคัดไหน เพราะมีไปหลายที

ความหนาแน่นปานกลาง แต่เคยไปช่วงใกล้วันหยุดยาวก็รอนานพอควร แต่ถ้าปกติก็ไปถึงได้นั่งรถเลย อาจต้องรอคนเต็มรถบ้างก็ไม่นาน ถ้าคนเยอะจริงๆ จะมีแจกบัตรคิวกันความสับสน ก็ fair ดี

ราคาตามระยะ แต่ก็ประมาณ 40 บาทนะ

รถก็รู้สึกสบายกว่าสองที่แรกนะ

ระยะเวลาก็ 30-40 นาที เช่นกัน ขึ้นทางด่วน ลงฝั่ง Big C พระราม 2 อาจมีไปเส้นทางแปลกๆเพื่อไปรับผู้โดยสารที่โทรมาจองไว้ด้วย แต่ก็อยู่ในเส้นทางไปทางด่วน จึงไม่มีปัญหา

ส่วนเรื่องให้ไปรับที่อื่นอาจต้องคุยกับวินเองว่าเค้าจัดการยังไง อันนี้ไม่แน่ใจ

====================================================

ส่วนรถตู้ที่ไปที่ต่างๆ ส่วนมากจะอยู่ที่เซ็นทรัล พระรามสอง ก็ต้องลองไปดูกันเองนะคะ

====================================================

ท้ายนี้ก็หวังว่า คนที่กำลังหาทางกลับบ้านที่เร็วขึ้น หรือทางใหม่ๆที่สะดวกกว่า จะได้รับประโยชน์ ไม่มากก็น้อย ^_^

นึกถึงโปรเจคจบ

วันนี้เนื่องจากลาหยุดไปสอบใบขับขี่ อารมณ์จะทำงานต่อยังไม่มี เลยนั่งเล่นไปก่อนเลยมีเรื่องมาให้อ่านกันเยอะ

และก็นึกขึ้นไปได้ว่าตัวเองเคยทำโปรเจคจบไว้ และมันยังอยู่ในเว็บ และยังใช้งานได้ ถึงแม้จะผ่านมาเป็นปีแล้วก็เถอะ เลยเอามานำเสนอ

=====================================================

http://thaigrowth.hyperhub.net/index.php

=====================================================

เป็นเว็บแรกที่เขียนเอง โดยร่วมทำกับเพื่อนๆ ใช้ภาษา PHP ส่วนกราฟก็ใช้ Google graph

=====================================================

เว็บนี้ทำขึ้นเพื่อเอาไว้ให้ ผู้ปกครอง และก็ฝั่งโรงเรียนเอาไว้ประเมินผลโภชนาการของเด็ก ได้ปรับปรุงแก้ไขได้ทันการ ถ้าผิดปกติไปจากเกณฑ์

=====================================================

ในส่วนของผู้ปกครองก็จะสามารถสมัครสมาชิคเพื่อประเมิน และเก็บผลการประเมินเป็นช่วงอายุได้ คือสามารถดูเป็นครั้งๆ หรือ ต่อเนื่องของเด็กคนเดียวกันได้ ได้เห็นความเปลี่ยนแปลงของลูกตัวเอง

=====================================================

ในส่วนของโรงเรียนทาง Admin หรือ ผู้ดูแลจะเป็นคนสร้าง user ให้เพื่อใช้งาน ซึ่งก็จะทำการต่างๆได้มากกว่าในส่วนของ ผู้ปกครอง คือมีการประเมินเด็กหลายคนพร้อมๆกัน และทำรายงานออกมา ได้ตั้งแต่ระดับ นักเรียน ห้องเรียน ชั้นเรียน หรือ ทั้งโรงเรียนก็ได้

=====================================================

ถ้าต้องการลองใช้งาน

1. เข้าไปที่เว็บไซด์ก่อนเลย http://thaigrowth.hyperhub.net/index.php

2. กดที่ทดลองประเมิน

3. ใส่ข้อมูลลงไปแล้วกดประเมิน จะมี pop-up ขึ้นมาให้กดยืนยันไป (สามารถใส่ข้อมูลย้อนหลังได้ด้วย)

4. ระบบจะแสดงผลออกมาในรูปของกราฟ และคำอธิบาย โดยกราฟจะออกมา 3 กราฟ คือ น้ำหนักตามเกณฑ์อายุ ส่วนสูงตามเกณฑ์อายุ และก็ น้ำหนักตามเกณฑ์ส่วนสูง ผลที่ประเมินจะมาจากกราฟทั้งสามรวมกัน โดยข้อมูลเกณฑ์ต่างๆ โปรเจคได้อ้างอิงจากกองโภชนาการกรมอนามัย กระทรวงสาธารณะสุข พ.ศ. 2547

5. ข้อจำกัดของระบบคือ จะประเมินได้ตั้งแต่แรกเกิดถึงอายุ 18 ปี ตามข้อมูลที่มี

6. ถ้าอยากใช้แบบ จริงจังเอาไว้วัด ประเมินเด็กๆ ลูกๆ ใครก็สามารถสมัครสมาชิกได้ ไม่มีค่าใช้จ่ายเลยทีเดียว ^^ โดยปุ่มสมัครจะอยู่ขวาบน ใส่ข้อมูลให้เรียบร้อย สมัครเสร็จก็สามารถเริ่มใช้งานได้เลย

=====================================================

ถึงแม้เมื่อเทียบกับเว็บสมัยใหม่อาจจะดูเชย แต่คนทำก็ภูมิใจและก็อยากให้มีคนเอาไปใช้งานจริงๆดู

ลองใช้กันเยอะๆนะคะ

ไปสอบใบขับขี่ที่เขตบางขุนเทียนมา update: 23/07/2012

คนเขียนไปมาหลายรอบแล้วแต่ยังไม่ผ่าน และแอบเซงเลยจะมาเล่าให้ฟังว่ารายละเอียดเป็นยังไง เพื่อคนอื่นๆจะสอบได้

โดยรวมคิดว่าการทำงานของที่นี้เป็นระบบดี เร็ว แต่ข้อมูลที่รับรู้ยังไม่ทั่วถึง ทำให้เกิดเหตุการณ์ที่คนมาแล้วไม่ได้สอบเยอะมาก ซึ่งคิดว่าเกิดขึ้นทุกวัน แล้วก็ทะเลาะกับเจ้าหน้าที่ มาทีไรก็เจอ ดังนั้นคนสอบก็ต้องหาข้อมูลเองด้วยได้ไม่เสียใจ

====================================================

รอบแรกไปวันแรงงานคนเยอะเลยได้แค่ทดสอบสมรรถภาพ

รอบสองได้สอบข้อเขียนกับปฏิบัติแต่ตกท่าสามมา

รอบสามยังคงตกท่าเดิม TT

====================================================

1. ก่อนอื่นถ้าใครจะมาสอบแบบใหม่ๆเลย คือไม่เคยได้ใบขับขี่ ควรมาก่อน 6.30 น. มายืนต่อคิว เนื่องจากเค้าจำกัดจำนวนคนสอบแค่วันละ 80 แล้วให้คิว 20 คนที่จองไว้ด้วย บัตรคิวจะเป็นสีเขียวเค้าจะแจกตอน 7.30 น. ถ้าใครมาช้ากว่านั่น หลัง 8.00 น. ก็มีสิทธิ์มาจองคิวเลือกว่าจะมาวันไหนแบบไม่ต้องต่อแถวได้ แต่จำกัดการจองวันละ 20 คน ซึ่งตอนนี้คิวจองเป็นเดือนๆไปแล้ว และวันที่นัดต้องมาก่อน 8.00 น. ด้วยไม่งั้นถือว่าสละสิทธิ์

2. พอแจกเสร็จเค้าก็จะให้ขึ้นไปชั้น 2 ไปส่งเอกสาร ก็มีสำเนาบัตรประจำตัวประชาชน สำเนาทะเบียนบ้าน และใบรับรองแพทย์ พวกที่เป็นสำเนาก็ให้รับรองสำเนาถูกต้องไว้เลยได้ไม่เสียเวลา อ่อมีบัตรประชาชนตัวจริงด้วยนะ

3. เค้าก็จะเอาเอกสารเราไปสักพัก แล้วเรียก แล้วก็ให้ใบที่มีรายละเอียดว่าสอบอะไรบ้าง แล้วเราก็ขึ้นไปชั้น 3 ต่อ ไปวางใบที่เค้าให้มาในตระกร้า นั่งดูวิธีสอบ รอเรียก พอเค้าเรียกก็ไปสอบสมรรถภาพก็มีประมาณ 3 ท่า ดูตาบอดสี เหยียบเบรกให้เร็ว และมองสีด้านข้าง

4. สอบเสร็จก็ไปนั่งในห้องฟังบรรยายต่อ โดยเริ่มประมาณ 9.00  ถึง 11.00 แล้วปล่อยไปทานข้าว แล้วให้ขึ้นมาใหม่ ฟังต่ออีก 1 ชม กว่าๆ ก็มีเรื่องน่ากลัวบ้าง ฮาบ้าง ปนกันไป แต่ควรฟังจับใจความให้ดีเพราะข้อสอบอยู่ในนั้นเกือบหมดเลย แต่จะหาหนังสืออ่านมาก่อนก็ดีเพราะบางทีคนสอนก็มึนเองนะ อาจทำให้จำสับสนได้

5. พอฟังบรรยายเสร็จก็ไปสอบข้อเขียนทำให้ได้มากกว่าหรือเท่ากับ 23 ข้อจาก 30 ข้อ ก็ไม่ยากมาก แต่ต้องระวังเรื่องการกดคอมพิวเตอร์ เพราะบางทีกดหนึ่งข้อ ระบบมันรวนไหลไปสองข้อก็เป็นไปได้ดูข้อดีๆ อย่าใจร้อน ใช้เวลาไม่ถึง 10 นาที

6. เสร็จก็ รอเรียกชื่อ เค้าจะถามว่าเอารถมาเอง หรือจะเช่า ถ้าเช่าก็ 100 บาทจ่าย แล้วเดิน หรือ วิ่งลงไปสนามสอบ

7. จะมีคนคุมสอบอธิบายวิธีการสอบให้ฟังรอบนึง ฟังดีๆ

8. การสอบมีสามท่า

= ท่าแรกเป็นท่าขับตามเครื่องหมายจราจร แล้วจอดเทียบฟุตบาทไม่เกิน 25 ซม

= ท่าสองเดินหน้า ถอยหลังทางตรง

= ท่าที่สาม ถอยหลังเข้าซอง (ท่าที่เราตก เนื่องจาก รอบแรก ชน รอบสอง เข้าไม่ลึกพอ TT)

ถ้าใครมีรถตัวเองก็ต้องเอาพวกอุปกรณ์ hi-tech ทั้งหมดที่ช่วยเช่น ตัวเตือนถอยหลัง ปิดให้หมด ส่วนใครเช่าก็รอเรียก

การสอบเค้าก็จะให้เข้าไปเรื่อยๆในสนาม บางทีมีสอบรถบรรทุกอยู่ด้วย ก็เริ่มที่ท่าที่สองก่อน แล้วก็ท่าแรก แล้วท่าสาม

ก่อนสอบควรปรับรถให้เหมาะกับตัวเอง และอย่าลืมรัดเข็มขัด ขับไม่ต้องเร็วมาก ใจเย็นๆ ส่วนคนที่เอารถมาพอสอบเสร็จต้องขับรถออกไปจอดข้างนอกก่อนถึงจะมารับผลสอบให้ผ่านได้

จะมีคนยืนดูอยู่เป็นจุดๆ ฟังตอนเค้าอธิบายให้ดีๆ

9. ขั้นตอนหลังจากนั้น ไม่รู้รายละเอียดมากเพราะยังไม่ถึง แต่รู้ว่าถ้าสอบปฏิบัติควรสอบเสร็จก่อนบ่าย 3 ไม่งั้นต้องมาอีกวันเพื่อมาทำบัตร และจ่ายเงินเพราะฝ่ายบัญชีปิดบ่าย 3 หรือ 3.30 ก็ไม่แน่ใจนะ ดังนั้นควรได้คิวแรกๆคิดว่าไม่ควรเกินคิว 40 อะ

ส่วนเทคนิคคงจะช่วยอะไรไม่ได้เพราะยังคงตกอยู่  แต่ท่าจอดเทียบที่เค้าว่ายากกัน เราว่าไม่ยากมากนะก็ขับช้าๆ พอเลี้ยวขวามาก็ขับให้ชนขอบเบาๆ แล้วค่อยเลี้ยวออกก็จะพอดีๆ

====================================================

ก็ขอให้คนที่ตั้งใจสอบ สอบผ่านทุกคนละกัน ส่วนข้าพเจ้าคงต้องซ้อมให้มากกว่านี้ ก่อนไปสอบอีกสักที ไม่งั้นอาจจะเอาไว้ให้ว่างจากการทำงานจริงๆ หรือไปเรียนต่อ ค่อยไปสอบ เพราะยังไม่มีความจำเป็นในการใช้รถมาก แต่ที่อยากได้เพราะจะได้ขับถนนจริงให้ชำนาญ ถ้าเกิดมีธุรอะไรจำเป็นที่ต้องขับได้ไม่ลำบาก เพราะบ้านลึกมาก รถสาธารณะไม่ค่อยจะมี

แต่แอบเสียวถ้าเกิน 90 วันนับตั้งแต่วันยื่นเรื่องต้องทำใหม่หมดเลย คงใช้เวลาอีกหลายวัน

====================================================

สู้ๆ

(ลืมบอกไป ถ้าไปสอบซ่อมไม่ต้องต่อคิวกับคนอื่นเค้า ก็ไป ยื่นเอกสารที่เค้าให้มาได้ที่ชั้นสอง แล้วรอเรียก สอบได้เลย ก็ไปสัก 7.30 ก็ได้ แต่สอบเก้าโมง มีคิวเหมือนกันแต่ได้สอบทุกคน)

====================================================

update : 23/07/2012

วันนี้ก็ไปสอบมาอีกรอบ ในที่สุดก็ผ่านจนได้ ความพยายามสัมฤทธิ์ผล เย้ๆ

แต่ได้ข่าวมาใหม่ที่จะมาแจ้งให้ทราบ นั่นคือการสอบจะไม่มีวันเดียวจบแล้ว

จะมีทฤษฎี วันนึง ปฏิบัติวันนึง รู้แค่นี้นะคะ รายละเอียดอื่นๆอาจต้องสอบถามไปทางเขตเองคะ

====================================================