หลังจากห่างหายไปนาน ผู้เขียนไปฝึกปรือ ทำอาหารไทย ขนมไทย และความรู้อื่นๆที่เกี่ยวข้องกับอาหารไทยมา เช่น การแกะสลัก (อยู่ก็เหมือนมีอะไรมาดลใจ และก็เริ่มศึกษา และก็เริ่มชอบขึ้นมา ดีจุง)
ได้เรียนที่โรงเรียนครัววันดี สนุกดี เป็นช่วงที่มีความสุข อ.น่ารัก ใจดี ทุกคนเลย เรียน เสาร์-อาทิตย์ ไปประมาณ 6 เดือนได้ (ใครอยากเรียนเข้าไปดูเว็บนี้ได้เลย http://www.wandeethaicooking.com/)
พอเรียนจบก็ถือโอกาสสอบ ซึ่งทางโรงเรียนเปิดสอบแก่บุคคลทั่วไป 2 แบบ คือ
- ศูนย์ทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงาน ผู้ประกอบอาหารไทยระดับ 1 (ศูนย์ทดสอบ)
- การทดสอบฝืมือคนหางานเพื่อไปทำงานต่างประเทศ (สถานทดสอบ)
=======================================================================
ในบทความนี้ จะเล่าถึง ศูนย์ทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงาน ผู้ประกอบอาหารไทยระดับ 1 (ศูนย์ทดสอบ) ก่อน
สอบเพื่ออะไร
- ใช้ในการยื่นประกอบ ขอวีซ่าในการทำงานยังต่างประเทศได้
- เป็นการวัดระดับ เทียบเท่า กับ ผู้ช่วย พ่อครัว แม่ครัว (วัดการทำตามคำสั่ง และการหั่น สับ ซอย)
ใครสมัครสอบได้บ้าง
- คนไทย อายุ 18 ปี ขึ้นไป
- ไม่เคยต้องโทษ และ ไม่เป็นโรคติดต่อร้ายแรง (ก็อาหารเป็นอะไรที่ส่งผลต่อผู้รับประทานโดยตรงเนอะ)
- มีประสบการณ์ทำงานด้านอาหารไทย >= 1 ปี หรือ ผ่านการอบรมมา >= 90 ชั่วโมง
สิ่งที่ใช้ในการสมัครสอบ
- ใบสมัคร (อันนี้ไปกรอกที่โรงเรียนได้เลยมีตัวอย่างให้ดูอยู่ ข้อมูลเราน่าจะกรอกได้อยู่แล้ว)
- สำเนาบัตรประชาชน (อย่าลืมเซ็นต์ สำเนาถูกต้องด้วยนะคะ)
- ใบผ่านงานด้านอาหารไทยอย่างน้อย 1 ปี หรือ ใบประกาศนียบัตรการอบรมด้านอาหารอย่างน้อย 90 ชั่วโมง
- รูปถ่าย 1 นิ้ว จำนวน 1 รูป (ไม่ควรเอารูป 2 นิ้วมาตัดเป็น 1 นิ้ว ลงทุนหน่อยเพื่ออนาคต แต่จริงๆถ่ายมาครึ่งโหล หรือโหลนึงเลยก็ได้ ราคาไม่ต่างกันมาก เพื่อใช้อื่นๆอีกได้)
- ใบรับรองแพทย์ 1 ชุด (ตัวจริง ก็ไปโรงพยาบาล ขอใบรับรองแพทย์ ตรวจร่างกาย)
- ค่าสมัคร 1000 บาท
วันสอบ
การแต่งกาย
ก็มีเสื้อเชฟ หรือ เชิิ้ตขาวแขนสั้น, กางเกงผ้าสีดำหรือเข้ม, รองเท้าหุ้มส้น (ผ้าใบสีดำก็ได้), หมวกคลุมผม (ถ้าผมยาวมากๆอาจใช้หมวกคล้ายๆหมอในห้องผ่าตัดได้), ผ้ากันเปื้อน, เตรียมผ้าเช็ดมือมาด้วยก็ได้ และที่สำคัญ เล็บควรตัดให้เรียบร้อยและสะอาด ไม่ควรใส่อะไรๆที่แถวๆมือ (ที่สอบ มีอุปกรณ์ให้พร้อมเช่นมีด แต่ใครจะเอามาเองก็ได้ เพื่อชินมือ)
การสอบ
7.40 > ควรมาถึงสถานที่สอบ
8.00-9.00 > เริ่มสอบทฤษฎี เป็นปรนัย 4 ตัวเลือก ให้กากบาทข้อที่ถูก มี 50 ข้อ เวลา 60 นาที ต้องผ่าน 35 ข้อถึงได้สอบปฏิบัติต่อไป (ถ้าตกหมดสิทธิ์สอบปฎิบัติ)
การสอบทฤษฎี
จะเป็นพวกความรู้ทั่วไปด้านอาหาร เช่น วัตถุดิบต่างๆ ผลไม้ตามฤดูกาล, การเก็บรักษา ผัก ผลไม้ เนื้อสัตว์ ของแห้ง, เครื่องเทศในอาหารไทย, หมู่อาหาร, วิตามินอะไรละลายในน้ำ, การวัด ชั่ง ตวง, การตวงของแห้ง ของเหลว การเทียบค่าต่างๆ, การเลือกซื้อ เนื้อสัตว์, ผัก, ผลไม้, ของแห้ง ประเภทต่างๆ, แป้งแต่ละอย่างลักษณะเป็นอย่างไร เอาไว้ใช้ทำอะไรได้บ้าง เส้นอะไรใช้แป้งอะไร, มีภาษาอังกฤษบ้างเล็กน้อย เช่นข้าวผัด การปอก เครื่องปั่นอาหาร, และอื่นๆก็พวกความรู้ทั่วไป เช่นการต้มไข่
9.00-10.00 > พัก รอตรวจข้อสอบ (พยายามไปหาอะไรง่ายๆทานแล้วรีบกลับมาเตรียมตัวดีกว่า เวลาอาจเปลี่ยนแปลงตามที่อ.ผู้ทดสอบแจ้ง)
10.00-13.00 > สอบปฎิบัติ ใช้เวลา 3 ชั่วโมง ซึ่งก่อนสอบ อ.จะชี้แจงการให้คะแนน และอธิบายถึงเมนูที่เราจะต้องทำ มี 4 อย่าง มีหลายชุด ชุดที่ผู้เขียนได้สอบคือมี ก๋วยเตี๋ยวผัดซีอิ้ว ยำวุ้นเส้น แกงเลียง ขนมกล้วย (อื่นๆที่เคยได้ยินมาก็มี ต้มยำกุ้ง ข้าวคลุกกะปิ ถั่วเขียวต้มน้ำตาล มันต้มขิง แกงจืดสามกษัตริย์ หลนเต้าเจี้ยว ขนมจีนซาวน้ำ)
การสอบปฎิบัติ
เริ่มปุป ล้างมือก่อนเลย เรื่องความสะอาดเป็นอย่างแรกๆที่ควรนึกถึง
การเตรียม ให้ลองเรียงลำดับ ดีๆ ทำอะไรก่อนหลัง เช่น ขนมกล้วย ต้องนึ่งตั้งครึ่งชั่วโมง ถ้าทำหลังสุดก็แลดูเสียเวลาไปหน่อย การเดินไปหยิบของมาให้เหมาะสมกับสิ่งที่เราจะทำขณะนั้น คำสั่งว่าให้ชั่ง ตวง เท่าไรก็ให้ทำตามนั้น
การปรุง การใช้ภาชนะ และอุปกรณ์ให้ถูกต้อง ความปลอดภัย
ความสะอาดในบริเวณก็เป็นสิ่งที่ควรคำนึงถึง เนื่องจากอาจส่งผลต่อการเกิดอุบัติเหตุได้
ตำแหน่งของการสอบจะไม่มีใครรู้จนได้เข้าสอบ ซึ่งแต่ละตำแหน่งก็จะมีข้อได้เปรียบเสียเปรียบกันไป อ.ก็จะดูให้ เช่นบางคนใกล้ที่หยิบอาหาร บางคนใกล้ เครื่องปรุง ใกล้ที่ล้างจาน
การจัดเสริฟ์ ภาชนะตามที่อ.บอกไว้ จะมีจานตัวอย่างวางไว้อยู่ ให้หาอีกชุดที่เหมือนกันมา ใส่อาหาร 2 ชุดให้เหมือนกัน
ที่สำคัญคือมีสติ อย่าลน ทำอาหารให้ออกมามีลักษณะที่ถูกต้อง และรสชาติถูก ทานได้ก็เป็นอันเรียบร้อย
ผ่านคือ > 70% แต่ถ้าจะไปนิวซีแลนด์ต้อง 75%
อันนี้เนื่องจากที่โรงเรียนมีอบรม เราก็เลยมาอบรมก่อน (ถ้าใครสะดวกอยากแนะนำให้มาอบรม ได้ฝึกก่อนปฏิบัติจริง ได้รู้ว่าควรปรับปรุงอะไร แต่ก็อย่าเกร็งจนสอบจริงยิ่งไปกันใหญ่ ก็มีมานะ เช่นตอนฝึกอ.บอกลวกวุ้นเส้นเละไป วันจริงมาแบบไม่สุก ก็ไม่ผ่านนะจะ)
อันนี้เราเพิ่งสอบไปเสร็จร้อนๆ ไม่ถึงอาทิตย์ ยังไม่รู้คะแนนสุดท้าย แต่รู้ว่าผ่าน
ตอนทำเราเรียงลำดับทำตามนี้ ขนมกล้วย > แกงเลียง > ยำวุ้นเส้น > และก๋วยเตี๋ยวผัดซีอิ้ว (อันนี้ผัดชอบติดกระทะ ถ้าต้องเอากระทะไปทำอย่างอื่นอาจต้องรอล้างพอควร)
อันนี้พอส่งให้อ. ตรวจ จะมีกรรมการ 3 คน ให้คะแนน จะชิมตามลำดับการส่ง เนื่องจากค่อนข้างมือใหม่ เลยเสร็จเกือบสุดท้าย พออ.เรียกไปฟัง อ.ก็ถามก่อนเลยมั่นใจจานไหนที่สุด ก็ตอบไปว่า ขนมกล้วย อ.ถามว่าชิมหรือยัง (ในใจแอบใจเสียเล็กน้อย) ตอบอ.ไปว่ายังไม่ได้ชิมค่ะ อ.บอกลองชิมสิ เราก็ชิม เราก็ว่าอร่อยดี อ.บอกว่าแป้งเยอะไป หนึบดี แต่มีกลิ่นแป้งนิดๆ เราก็เลยนึกได้ว่ากล้วยเราเอามา 3 ลูกเห็นว่าเกือบเต็มแล้วเลยไม่ได้เอาลูกที่ 4 มาเพิ่มเพราะกลัวเยอะเกิน แต่ก็ลืมคิดไปว่าอันนี้ชื่อขนมกล้วย กล้วยเยอะหน่อยก็ไม่ผิดอะไรแต่อย่าเยอะเกินไป อาจแค่พูนๆ จานนี้ไม่เลวร้าย
ต่อมาแกงเลียง อ. พูดเป็นเสียงเดียวกันว่าเค็มไปหน่อย แต่แก้ได้ด้วยการเติมน้ำซุบเพิ่ม อ.ก็ถามว่าตวงกะปิเยอะไปไหม เราก็บอกไปว่าพอดีๆ ค่ะ แต่ผักอาจน้อยไปหน่อย (คือตอนซ้อมใส่ผักเยอะแล้วมันจืดไป เลยลดผักลง แต่ก็ดันลดเยอะไปหน่อย) ถ้าใส่ผักเพิ่มก็จะพอดีๆ อันนี้อ.ก็ยังให้ผ่านอยู่
ยำวุ้นเส้น อ.บอกรสดีเลย (ตำเหนื่อยพอควร เทคนิคคือใส่เกลือไปตำกับพริก ตอนซ้อมไม่ได้ทำงี้ ตำยาก และการเลือกพริกก็สำคัญ ควรเลือกสีแดงสด สีได้ออกมาสวยๆ) จานนี้พลาดนิดหน่อยตรงวุ้นเส้น อ.บอกว่าอีก 2-3 % จะสุกพอดีมากๆ แต่ถ้าใครชอบเส้นไม่เละมากก็กำลังดี และหั่นเนื้อสัตว์ ออกมาสวย จานนี้ที่ใช้เวลาจะเป็นพวก ต้องลวกกุ้งเอง กับทอดกุ้งแห้งให้กรอบ (ที่สำคัญ อย่าลืมใส่กุ้งแห้ง เพราะจะใส่หลังสุด คนชอบลืม)
อย่างสุดท้าย อ.ชม คือผัดซีอิ้ว อ.บอกว่า ในการสอบวันนี้ จานนี้ก็ลำดับต้นๆ เลย ภูมิใจนะ แต่ก็มีติงๆบ้างว่าผักเยอะไปหน่อย (เอาจริงๆก็กะยากอยู่ ในคำสั่งบอกว่า 3 ต้น แต่ ต้นที่มีให้เลือกใหญ่มากๆ เราก็หยิบลดๆลงแล้วก็ยังเยอะอยู่ดี) จานนี้คนตกเยอะมาก เช่น เส้นขาด เส้นไม่หอม ผักหั่นไม่พอดีคำยาวไป เทคนิคที่จะไม่ทำให้เส้นขาดคือใช้สันตะหลิวคนเป็นวง และถ้าจะให้หอมก็ต้องเร่งไฟผดตอนท้ายๆด้วย
หลังจากอ. ทั้งติ ทั้งชม ก็บอกว่าผ่านนะคะ จังหวะ ณ ตอนนั้น รู้สึกโล่งมาก
ที่จริงเป็นวันเกิดด้วยวันนั้น เลยดีใจ 2 เท่า เป็นของขวัญวันเกิดที่เจ๋งชะมัด
ท้ายนี้ก็หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์แก่ผู้มีความฝัน และความพยายาม สู้ๆนะคะ ทุกคน
บทความหน้า สถานทดสอบ (มีผัดซีอิ้วด้วยแหละ แต่คนละสูตร อ.ก็บังเอิญเป็นคนเดิม เลยโดนติงมาเล็กน้อยว่าทำไมรอบนี้ไม่ดีเท่าคราวที่แล้ว ก็แอบหงอยๆไป แต่ พอคนละสูตรแล้ว มันให้ความรู้สึกต่างกันแหะ แอบกลัวเส้นขาดกว่าปกติ)